องค์การอนามัยโลก เตือนว่าวัคซีนไม่ได้ช่วยยับยั้งการแพร่ระบาด แม้ฉีดแล้วก็ยังต้องมีมาตรการป้องกันเช่นเดิม ขณะที่ประเทศไทยยังคงวุ่นวายเรื่องการฉีดวัคซีนครั้งใหญ่ ท่ามกลางสถานการณ์การระบาดรุนแรงขึ้น
องค์การอนามัยโลก (WHO) ประเทศไทย ระบุว่าการฉีดวัคซีนโควิด-19 ไม่อาจป้องกันการติดเชื้อได้ ยังต้องใช้ควบคู่กับมาตรการอื่นที่ป้องกันการระบาดของโควิด-19
“วัคซีนไม่ได้เป็นสิ่งที่จะหยุดการแพร่ของเชื้อโควิด 19 การฉีดวัคซีนต่างหากคือสิ่งที่สำคัญที่สุด ซึ่งหลังฉีดแล้วเราก็ยังคงต้องรักษามาตรการสาธารณสุขต่อไป เช่น สวมหน้ากาก เว้นระยะห่าง และล้างมือบ่อยๆ จนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้นและกลับมาเหมือนเดิมอีกครั้ง”
ประสิทธิภาพการฉีดวัคซีนโควิด-19 ต้องใช้เวลา 2-3 สัปดาห์ นับจากการได้รับวัคซีนเข็มสุดท้าย เพื่อให้วัคซีนมีประสิทธิภาพเต็มที่ ดังนั้นในช่วงเวลานับตั้งแต่เข็มแรก จึงมีความสำคัญมากที่จะต้องทำตามมาตรการต่าง ๆ เพื่อป้องกันตนเองและผู้อื่น
องค์การอนามัยโลกระบุว่า หลังฉีดไปแล้วในสัปดาห์แรก ยังมีความเสี่ยงสูงในการติดเชื้อโควิด-19 โดยความสี่ยงจะลดลงเมื่อผ่านพ้นไป 3 สัปดาห์

อนามัยโลกระบุอีกว่า วัคซีนอย่างเดียวไม่สามารถยับยั้งการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด 19 และสายพันธุ์เดลต้าได้ แต่หากใช้ควบคู่ไปกับมาตรการต่างๆ เพื่อป้องกันตัวเองและผู้อื่น เราจะช่วยกันหยุดการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ได้
“วัคซีนไม่ได้ให้การป้องกัน 100% เพราะฉะนั้นการติดเชื้อหลังฉีดวัคซีนเกิดขึ้นได้ แต่เมื่อคนได้ฉีดวัคซีนเพิ่มขึ้น คาดว่าจะมีคนจำนวนน้อยลงที่สัมผัสเชื้อไวรัส”



อ่านเรื่องที่เกี่ยวข้อง:
วัคซีนโควิด-19 คือความหวังเดียว เมื่อโลกต้องอยู่กับไวรัสกลายพันธุ์
คู่มือสำหรับ’คนในครอบครัว-ผู้ดูแล’ ผู้ป่วยโควิด-19 ที่บ้านยุคเตียงเต็ม
หมอวิชัยไขข้อข้องใจวัคซีนโควิด มีให้รีบฉีด ป้องกันติดเชื้อรุนแรง