เล่นกับลูก

เล่นกับลูกอย่างไร ให้สมวัยและสร้างสรรค์ หากโรงเรียนยังปิดต้องติดบ้าน

เล่นกับลูก ในยุคโควิด-19 เมื่อโรงเรียนยังปิด ทุกคนต้องติดอยู่กับบ้าน ผิดธรรมชาติเด็กเล็ก ที่มักออกไปเล่นนอกบ้านพร้อมผู้ปกครองคอยดูแลอยู่ใกล้ๆ หากสถานการณ์เช่นนี้ยังคงอยู่อีกหลายเดือน สมาชิกในครอบครัวควรเล่นอะไรและเล่นอย่างไรในแต่ละช่วงวัย

“เด็กในวัย 3 ปีแรก ถือเป็นช่วงทองของการส่งเสริมพัฒนาการ ถ้าส่งเสริมดีในเรื่องอารมณ์ พฤติกรรมและพัฒนาการด้านต่างๆ ก็จะเป็นประโยชน์อย่างมากต่อเด็ก ๆ ในวันหน้า” ผศ.ดร.สุนทรี ทวีธนะลาภ  ภาควิชากายภาพบำบัด คณะสหเวชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวถึงความสำคัญของการเล่นกับเด็ก

“การเล่นเป็นสิ่งที่ติดตัวเด็กทุกวัยอยู่แล้ว และเป็นประโยชน์ต่อพัฒนาการของสมอง เสริมสร้างจินตนาการการเรียนรู้ การสัมผัส การมองเห็น และการได้ยินเสียงต่างๆ การเล่นอย่างเหมาะสมกับวัยยังจำเป็นต่อการพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ ทำให้เส้นใยประสาทของเด็กขยายเชื่อมต่อโยงถึงกันเป็นเครือข่ายที่สลับซับซ้อน ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของการเจริญเติบโต ทักษะการสื่อสาร การวางแผนเวลา และปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น” 

ผศ. ดร. สุนทรี แนะนำการเล่นกับเด็กเล็กเพื่อเสริมสร้างพัฒนาการในแต่ละช่วง ตั้งแต่ต่ำกว่า 1 ขวบ ถึง 4 ขวบขึ้นไป ดังนี้ 

“จ๊ะเอ๋” เปิดโลกการเรียนรู้กับเด็กวัยต่ำกว่า 1 ขวบ 

ผศ.ดร.สุนทรี แนะให้ผู้ปกครองพาเด็กๆ ออกกำลังกายเพื่อเป็นการเสริมสร้างกล้ามเนื้อและความแข็งแรง รวมทั้งการเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อมัดเล็กในมือ เช่น การขีดเขียนด้วยมือด้านที่ถนัดและการใช้มือปั้นดินแป้ง หรือจับช้อนตักของก็สำคัญต่อการฝึกฝนทักษะและความสัมพันธ์ระหว่างตากับมือ การทำงานของสมองกับการควบคุมอวัยวะในร่างกาย

สำหรับเด็กวัยนี้ การเล่นและการทำกิจกรรมในครอบครัวจำเป็นต่อพัฒนาการด้านภาษาและการสื่อสารของพวกเขา นอกจากการอ่านออกเสียงหนังสือนิทานที่มีภาพประกอบแล้ว การใช้เสียงขับร้องเพลงพร้อมท่าประกอบจังหวะยังมีส่วนกระตุ้นพัฒนาการด้านการเรียนรู้ของเด็ก ยิ่งเด็กมีคำถามระหว่างประกอบกิจกรรม พ่อแม่ผู้ปกครองก็ยิ่งต้องชิงโอกาสเพิ่มความอยากรู้อยากเห็นให้แก่พวกเขาผ่านคำอธิบายขยายความและการเล่าเรื่องด้วยน้ำเสียงที่น่าสนุกชวนติดตาม

ผศ.ดร.สุนทรี กล่าวย้ำในเรื่องนี้ว่า “แม้เด็กวัยนี้จะพูดยังไม่คล่อง แต่การเล่นแบบนี้จะทำให้พัฒนาการด้านการพูดของเด็กเติบโตได้เร็วขึ้น มีความสามารถด้านการอ่านได้ดีขึ้น”

กิจกรรมใช้พลังงานสำหรับเด็กวัย 2-3 ปี 

เด็กในวัยนี้ไม่อยู่นิ่งขั้นสุด เด็กมั่นใจในการเคลื่อนที่ของตนมากขึ้นเนื่องจากความพร้อมของกล้ามเนื้อและการทรงตัวที่ดีขึ้นมาก ของเล่นเด็กจึงควรเป็นของเล่นที่เน้นการใช้พลังงาน เช่น จักรยานสามล้อ จักรยานทรงตัว การเตะลูกฟุตบอล การกระโดด และการโยนลูกบาสเก็ตบอล 

“การเล่นโดยใช้พลังงานเป็นการกระตุ้นให้ออกกำลัง ยิ่งช่วงที่ทุกคนต้องอยู่ติดบ้าน ยิ่งต้องกระตุ้นเพื่อไม่ให้เด็กอ้วน และอาจเพิ่มกิจกรรมทางกายอีก เช่น การโยนรับส่งลูกบอล การใช้ตะกร้ารับลูกบอล การคลานพร้อมสิ่งของวางบนหลัง การเต้นประกอบเพลง ที่จริง นอกจากการเล่นจะควบคุมภาวะอ้วนได้แล้วยังช่วยดึงเด็กๆ วัยนี้ให้ถอยห่างจากหน้าจอหรือเกมได้ด้วย” ผศ.ดร.สุนทรี กล่าว

นอกเหนือจากการเล่นที่ใช้พลังงานดังกล่าวแล้ว การปล่อยให้เด็กวัยนี้วาดเขียนบนผนังหรือกระดาษใหญ่ๆที่เตรียมไว้ให้ และการติดแผ่นสติกเกอร์ตามจุดต่างๆ ยังจำเป็นต่อเด็กวัย 2-3 ปีเช่นกัน เนื่องจากกล้ามเนื้อนิ้วและมือมัดเล็ก ๆ ของพวกเขาต้องการการกระตุ้นพอ ๆ กับจินตนาการ การฝึกร้อยลูกปัดที่ต้องใช้สายตาและนิ้วมือที่แม่นยำจึงเป็นอีกกิจกรรมในบ้านที่เหมาะสมสำหรับพวกเขา

บทบาทสมมติ การเล่นของเด็กวัย 3-4 ปี

การเล่นที่เหมาะสมกับวัยนี้คือบทบาทสมมติ เพื่อกระตุ้นจินตนาการผ่านบทบาทที่ได้รับและฝึกฝนทักษะกระบวนการสื่อสารกับคนอื่น ๆ

“จิ๊กซอว์หรือเลโก้” ก็เป็นอีกชิ้นที่เหมาะกับเด็กวัยนี้ เพื่อฝึกการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าและกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ นอกจากนี้การเล่นกิจกรรมเกี่ยวกับแสงเงา ไม่ว่าจะเป็นแสงจากดวงอาทิตย์หรือแสงจากไฟฉาย จะช่วยเสริมทักษะด้านวิทยาศาสตร์ ในเรื่องของการสังเกต การจำแนกระยะทาง ตำแหน่งและขนาดของเงา

เด็กวัยนี้เริ่มทำงานบ้านง่ายๆ ได้บ้างแล้ว พ่อแม่อาจเริ่มชวนลูกมาช่วยงานบ้านเพื่อฝึกความรับผิดชอบร่วมกันในครอบครัว เช่น การรดน้ำต้นไม้ การคัดแยกผ้าก่อนซัก การตากและเก็บผ้า การทำขนมอย่างง่ายๆ

เล่นกับลูก

การเล่นเพื่อเตรียมพร้อมเข้าโรงเรียนของเด็ก 4 ปีขึ้นไป

วัยนี้เริ่มไปโรงเรียน พ่อแม่อาจจัดเวลาเล่นล้อกับแผนการเรียน เช่น ช่วงเช้าถึงเที่ยงเป็นเวลาเรียนรู้ มีพักระหว่างเรียน พักเที่ยง และเวลานอนกลางวัน ช่วงบ่ายจะเป็นเวลาสันทนาการ กิจกรรมกลุ่มฝึกงานฝีมือ ซึ่งน่าจะใช้กรอบนี้กำหนดแผนกิจกรรมในบ้าน ฝึกฝนเด็ก ๆ ให้รู้จักการแบ่งหรือจัดสรรเวลาประกอบกิจกรรมต่างๆ เมื่อไรเรียน ทำงานประดิษฐ์ เมื่อไรพักและเล่น ที่สำคัญกิจกรรมกลางแจ้ง โดยเฉพาะการออกกำลังที่เน้นการใช้พลังงาน

“เล่นกับลูก มีประโยชน์ก็จริง แต่การแบ่งเวลาก็สำคัญ พ่อแม่ควรฝึกให้ลูกรู้จักการรอคอย เรียนรู้การแบ่งเวลา ช่วงไหนเป็นเวลาที่พ่อแม่อยู่กับลูก ช่วงไหนเป็นเวลาทำงานของพ่อแม่ รวมทั้งปฏิสัมพันธ์กับคนต่างวัยในกรณีที่พ่อแม่ติดธุระ เด็ก ๆ จำเป็นต้องอยู่กับญาติผู้ใหญ่ในบ้านแทน” ผศ.ดร.สุนทรี กล่าวทิ้งท้าย

ไม่ว่าเด็กจะอยู่ในช่วงวัยใด และไม่ว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จะอยู่กับเราอีกนานเพียงใด กิจกรรมง่ายๆ ในบ้านดังที่ผศ. ดร. สุนทรี แนะนำไว้ข้างต้นนั้นเป็นสิ่งที่ควรทำอย่างสม่ำเสมอ เพื่อพัฒนาการของเด็กและยังช่วยกระชับความสัมพันธ์ของสมาชิกในครอบครัวอันเป็นรากฐานสำคัญของชีวิตอีกด้วย

10 ข่าวเด่นรอบสัปดาห์

คณะแพทย์ฯ จุฬาฯ ชูพหุวัฒนธรรม ลดความเหลื่อมล้ำบริการสุขภาพ
ลาแอฟริกา สร้างความเสี่ยงโรคอุบัติใหม่ไทย-เวียดนาม
เตือนไทย-เวียดนาม เสี่ยงโรคอุบัติใหม่จากสัตว์สู่คน ผ่านเส้นทางค้าหนังลาป้อนตลาดจีน
"Work Life Balance ไม่ได้มาฟรี ๆ" ธนา เธียรอัจฉริยะ มองชีวิต-การงาน
ประวัติศาสตร์ไทยในฉลองพระองค์
คีตศิลป์นครศรีฯ สืบสานวัฒนธรรมพื้นถิ่นแดนใต้
เวิร์กช้อปสื่อ เข้าใจ "ท้องวัยรุ่น"
ศิลปะแห่งความรัก
เรารบกันวันต่อวัน ชั่วโมงต่อชั่วโมง : ช่อง one31 กับ 8 ปี ทีวีดิจิทัล
สังคมเปลี่ยน สื่อปรับ ช่อง 3 จะไปทางไหน