นับตั้งแต่การระบาดของโควิด-19 ปลายปี 2019 การสืบค้นต้นตอเกี่ยวกับไวรัสโควิด-19 ยังเป็นปริศนา โดยการติดเชื้อปะทุในอู่ฮั่น ก่อนลุกลามแพร่กระจายไปทั่วโลก กลายพันธุ์เป็นสายพันธุ์ต่าง ๆ และยังเป็นปัญหาของโลกไปอีกนาน
แม้ว่าองค์การอนามัยโลก (WHO) ออกมายืนยันว่าไวรัสโควิด-19 เกิดจากธรรมชาติ โดยผู้ต้องสงสัยคือค้างคาวในจีน ก่อนติดเชื้อสู่มนุษย์ แต่นักวิทยาศาสตร์ในโลกตะวันตกกลับไม่เชื่อเช่นนั้น กำลังสงสัยว่าเชื้อไวรัสโควิดที่หลุดออกมาและแพร่ระบาดทุกวันนี้ เป็นการตัดแต่งทางพันธุกรรมที่หลุดรอดออกมาจากห้องทดทองที่เมืองอู่ฮั่น
คนแรกที่ออกมาโจมตีจีนอย่างเปิดเผย คือ อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่เรียกร้องให้องค์การอนามัยโลกสอบสวนต้นตอโควิด-19 ในจีน โดยระบุว่าเชื้อโควิด-19 น่าจะหลุดจากห้องทดลอง มากกว่าเกิดขึ้นตามธรรมชาติ
อย่างไรก็ตาม คำกล่าวของอดีตประธานาธิบดีทรัมป์ ไม่ได้มีใครให้น้ำหนักมากนัก เนื่องจากในยุคนั้นความขัดแย้งระหว่างสองประเทศในหลายเรื่อง ตั้งแต่สงครามการค้าไปจนถึงสงครามไซเบอร์ ในขณะที่ทั่วโลกก็วุ่นอยู่กับการป้องกันการติดเชื้อและรักษาผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้น
หลังจากมีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในสหรัฐประธานาธิบดีโจ ไบเดน ซึ่งตอนแรกไม่ได้มีประเด็นอะไรมากนักเกี่ยวกับไวรัสโควิดและมีแนวโน้มความขัดแย้งกับจีนในหลายเรื่องจะคลี่คลาย แต่แล้วนายไบเดน ได้กลับท่าทีใหม่โดยขอให้เจ้าหน้าที่สหรัฐรวบรวมหลักฐานและสรุปภายใน 90 วัน ว่าต้นกำเนิดโควิด-19 อย่างไรกันแน่
การเคลื่อนไหวของนายไบเดน พร้อม ๆ กับองค์การอนามัยโลกเรียกร้องให้จีนร่วมมือและเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทั้ง ๆที่ได้รับการปฏิเสธมาก่อนหน้านั้น โดยเห็นว่าหากสามารถสืบต้นตอของไวรัสได้ ก็จะช่วยให้มีการป้องกันการแพร่ระบาดในอนาคตได้ ไม่ว่าจะมาจากไวรัสชนิดไหน
ปัญหาเกี่ยวกับต้นกำเนิดไวรัสโควิด-19 ยังมีประเด็นที่ยังหาคำตอบไม่ได้หลายเรื่อง เช่น ลักษณะทางกายภาพของโควิดเองที่ไม่พบในธรรมชาติมาก่อน และการแพร่ระบาดก็แปลกประหลาดกว่าไวรัสในมนุษย์ที่เคยมีมา เพราะแทนที่การกลายพันธุ์และการแพร่เชื้อจะลดความรุนแรง แต่ไวรัสโควิด-19 กลับรุนแรงขึ้น
ทางการจีนดูเหมือนจะเผชิญกับแรงกดดันเรื่องการศึกษาต้นกำเนิดของโควิด โดยยืนยันว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะเกิดจากการรั่วไหลออกจากห้องทดลองในอู่ฮั่นและยังยืนยันข้อมูลเดิมที่ว่าไวรัสโควิด-19 เกิดจากค้างคาวและผ่านสื่อตัวกลาง ก่อนติดมาที่มนุษย์
ล่าสุด สำนักข่าซินหัวรายงานว่านับตั้งแต่วันที่ 17 ก.ค. ชาวเน็ตจีนจำนวน 25 ล้านคนได้ร่วมลงชื่อทางออนไลน์เพื่อส่งคำร้องไปยังองค์การอนามัยโลก (WHO) ให้เข้าตรวจสอบห้องปฏิบัติการด้านชีวภาพฟอร์ตเดทริก (Fort Detrick) ของสหรัฐฯ
หนังสือพิมพ์โกลบอลไทมส์ (Global Times) ระบุว่าคำร้องทางออนไลน์ที่เรียกร้องให้มีการสอบสวนห้องปฏิบัติการฟอร์ต เดทริก เกี่ยวกับต้นกำเนิดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) และความปลอดภัยของห้องปฏิบัติการนั้นเปรียบเสมือนความคิดเห็นของสาธารณชนในวงกว้าง
รายงานระบุว่าห้องปฏิบัติการด้านชีวภาพฟอร์ต เดทริก เก็บรวบรวมเชื้อไวรัสที่เป็นอันตรายหลายชนิด และเคยเกิดเหตุเชื้อไวรัสรั่วไหลเมื่อปี 2019 ก่อนการระบาดใหญ่ของโรคโควิด-19
ชาวเน็ตจีนได้ร่วมลงชื่อยื่นคำร้องข้างต้นถึง 5 แสนรายชื่อภายใน 24 ชั่วโมง ก่อนจะพุ่งแตะที่ 1 ล้านรายชื่อภายใน 48 ชั่วโมง
ทั้งนี้ การลงชื่อดังกล่าว นับว่าเป็นความเห็นระดับคนทั่วไปครั้งแรก นอกจากระดับรัฐบาล ซึ่งมีแนวโน้มการสืบหาต้นตอโควิด-19 จะเป็นเรื่องยุ่งยากอย่างมาก และอาจไม่มีวันเป็นไปได้อีกต่อไป
อ่านเรื่องที่เกี่ยวข้อง:
กำเนิดไวรัสโควิด-19 ห้องทดลอง หรือ ธรรมชาติ? ปริศนาที่รอคำตอบ
อนามัยโลกสอบต้นตอโควิดใหม่ เกิดจาก “ธรรมชาติหรือห้องแลป”
ข้อค้นพบใหม่น่ากลัวเกี่ยวกับเดลตา ‘ฉีด-ไม่ฉีด’วัคซีน แพร่เชื้อได้เท่ากัน