ฉีดวัคซีน ครั้งใหญ่ รับเปิดประเทศระยะ 2 เริ่ม 1 ต.ค.นี้ เข้าฤดูท่องเที่ยวในไตรมาส 4 สาธารณสุขสั่งทั่วประเทศเตรียมฉีดวัคซีน 1 ล้านโดส 24 ก.ย.นี้ และเร่งฉีดเข็ม 3 เร็วกว่ากำหนด
นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 กล่าวว่านายกรัฐมนตรีในฐานะ ผอ.ศบค. ได้สั่งการให้มองไปถึงฤดูการท่องเที่ยวคือในช่วงไตรมาส 4 ของทุกปี หรือเรียกว่าช่วง High Season ว่าจะต้องมีการเตรียมตัวอย่างไรบ้าง โดยเมื่อวิถีชีวิตได้เปลี่ยนแปลงไปการอาศัยอยู่ร่วมกับโควิด -19 จำเป็นต้องปรับตัว จึงได้ให้นโยบายเพื่อให้เตรียมความพร้อมรองรับนักท่องเที่ยวไทยและต่างชาติให้ทันช่วง High Season หรือไตรมาสที่ 4 ของปีนี้
มอบหมายให้ กระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ไปเตรียมดูพื้นที่นำร่องท่องเที่ยวปลอดภัยจากโควิด – 19 หรือ COVID Free Tourist Area Sandbox เช่นเดียวกับที่ Phuket Sandbox ที่ได้เปิดรองรับนักท่องเที่ยวแล้ว ดังนี้
1.ในเรื่องของพื้นที่ ว่าพื้นที่เป็นอย่างไรบ้าง อาทิเป็น เกาะหรือไม่ มีสนามบินหรือไม่ กำหนดเส้นทางเข้าออกได้อย่างชัดเจนหรือไม่
2. กำหนดมาตรการป้องกันโควิดในพื้นที่นั้นๆ ต้องได้รับความเห็นชอบในการดำเนินการ พิจารณาความพร้อมของประชาชนในพื้นที่ จำนวนการติดเชื้อในพื้นที่ว่ามีมากหรือไม่ จำนวนการฉีดวัคซีนในพื้นที่
3. ความสามารถในการรักษา ถ้าเกิดการระบาด การควบคุมโรค มีพื้นที่ บุคคลากรในการรักษาเหมาะสม เพียงพอหรือไม่ และได้มอบหมายให้ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และกระทรวงมหาดไทย กำหนดพื้นที่นำร่อง หรือ sandbox อื่นๆ เพิ่มเติม โดยอาจกำหนดเป็น 2 ระยะ เพื่อทดลองดำเนินการตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 2564 เป็นต้นไป
“ระยะที่สองอาจเป็นพื้นที่อื่น ๆ เพิ่มเติมที่มีความพร้อม เช่น พื้นที่ในต่างจังหวัด พื้นที่ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว อาจจะอยู่ในภาคตะวันออก ภาคเหนือ”
ระดมฉีก 24 ก.ย.นี้ 1 ล้านโดส เตรียมเปิดประเทศระยะ 2
นายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ได้ประชุมวิดีโอทางไกลกับนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด ผู้อำนวยการโรงพยาบาลในสังกัดทั่วประเทศ ให้ทุกจังหวัดเตรียมแผนการฉีดวัคซีนและรวมพลังนัดหมายประชาชนเข้ารับการฉีดวัคซีนให้ได้ 1 ล้านเข็ม (รวมวัคซีนทุกชนิดทั้งเข็มที่ 1, 2 และ 3) พร้อมกันทั่วประเทศ ในวันที่ 24 ก.ย. เนื่องในวันมหิดล เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่องค์สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก “พระบิดาแห่งการแพทย์แผนปัจจุบัน” ที่ทรงมีคุณูปการอันใหญ่หลวงต่อปวงชนชาวไทยอย่างหาที่สุดมิได้ ในด้านการแพทย์การสาธารณสุข และเพื่อประโยชน์กับประชาชน
สำหรับสถานการณ์โควิด 19 ของประเทศขณะนี้มีแนวโน้มการติดเชื้อลดลงชัดเจน และมี 25 จังหวัดที่ฉีดวัคซีนในกลุ่มผู้สูงอายุได้เกิน 50% แล้ว ได้แก่ ปทุมธานี พระนครศรีอยุธยา สิงห์บุรี ประจวบคีรีขันธ์ สมุทรสาคร จันทบุรี ตราด ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง สมุทรปราการ บุรีรัมย์ อำนาจเจริญ กระบี่ ชุมพร นครศรีธรรมราช พังงา ภูเก็ต ระนอง สุราษฎร์ธานี ตรัง พัทลุง ยะลา สงขลา และกทม. สามารถขับเคลื่อนฉีดวัคซีนแบบปูพรมฉีดให้กับประชาชนทุกกลุ่มได้ทันที
นอกจากนี้ 5 จังหวัด ได้แก่ กทม. เชียงใหม่ ประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี และชลบุรี เตรียมความพร้อมรองรับตามแผนการเปิดประเทศระยะที่ 2 ในวันที่ 1 ต.ค.นี้ และเพื่อสนับสนุนการเปิดประเทศในระยะต่อไป เริ่มวันที่ 15 ต.ค. ได้กำหนดให้ผู้ตรวจราชการกระทรวงฯ เลือกจังหวัดที่ประชาชนได้รับวัคซีนเข็ม 1 ครอบคลุม 50% มา 1 อำเภอ ซึ่งเป็นอำเภอที่ฉีดวัคซีนครอบคลุม 70% และมีตำบลหรือพื้นที่แหล่งท่องเที่ยวที่ฉีดได้ครอบคลุม 80%
รวมทั้งประชาชนในพื้นที่ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันตนเองขั้นสูงสุด (Universal Prevention) และสถานประกอบการดำเนินการตามแนวทาง Covid Free Setting
ฉีดวัคซีนเข็ม 3 เร็วกว่ากำหนด ต.ค.นี้
สำหรับการฉีดวัคซีนนั้น นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่าขณะนี้ทั่วประเทศฉีดไปแล้วกว่า 40 ล้านโดส จากศักยภาพการฉีดวัคซีนแต่ละวันเชื่อว่าภายในสิ้นปี 2564 จะฉีดวัคซีนได้มากกว่า 100 ล้านโดส
ส่วนในปี 2565 รัฐบาลได้เจรจาจัดหาวัคซีนเพื่อฉีดเป็นเข็มกระตุ้น ซึ่งการบริหารจัดการจะง่ายขึ้น เนื่องจากฉีดเพียงเข็มเดียว
ผู้ที่ได้รับวัคซีนซิโนแวคครบ 2 เข็ม ตั้งแต่เดือนมี.ค.-พ.ค. 2564 ประมาณ 3 ล้านคน จะฉีดวัคซีนกระตุ้นเข็มที่ 3 ด้วยแอสตร้าเซนเนก้า ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นบุคลากรทางการแพทย์และบุคลากรด่านหน้าที่ได้รับเข็ม 3 ไปแล้ว คาดว่าจะเหลือประมาณ 2 ล้านกว่าคน กรมควบคุมโรคกำลังเร่งวางแผนการฉีด โดยพิจารณาทั้งพื้นที่และกลุ่มเสี่ยง คาดว่าจะเริ่มได้ก่อนเดือนต.ค. ซึ่งเร็วกว่าที่กำหนดไว้
“วัคซีนไฟเซอร์ที่จะฉีดในเด็กอายุ 12-18 ปี ผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการวัคซีน รวมถึงการตรวจสอบของ อย.ไทยแล้ว จึงจัดหามาฉีดให้เด็กเพื่อให้กลับไปเรียน ใช้ชีวิตได้ใกล้เคียงปกติมากที่สุดส่วนวัคซีนอื่นๆ เช่น ซิโนแวค ที่จะฉีดได้ตั้งแต่อายุ 3 ปี ยังไม่ได้มาขึ้นทะเบียนเพิ่มเติม ขณะที่ซิโนฟาร์มอยู่ระหว่างอย.พิจารณาและขอเอกสารเพิ่มเติม”
นายอนุทินกล่าวว่าระบบสาธารณสุขในพื้นที่ ตั้งแต่ระดับตำบล อำเภอ จังหวัด รวมถึงกลุ่มจังหวัดในเขตสุขภาพ มีความพร้อม จึงไม่กระทบกับการเปิดประเทศ โดยนายกรัฐมนตรีได้กำชับให้ดำเนินการอย่างรอบคอบ ให้ทั้งประเทศมีความปลอดภัย
เรื่องที่เกี่ยวข้อง:
วัคซีนโควิด: ทางเดียวที่เหลืออยู่ กับปีแห่งการฉีดวัคซีน มากที่สุดในประวัติศาสตร์
วัคซีนไฟเซอร์ล็อตแรกเริ่มฉีดต.ค. ในเด็กอายุ 12 ปีขึ้นไป-ผู้ใหญ่เข็ม 2-3
5 กลุ่มเตรียมตัวฉีดวัคซีนโควิด-19 รวม 24 ล้านโดส 27 ก.ย.-31 ต.ค.