เงินเฟ้อ เดือนส.ค.ติดลบ 0.02% จากมาตรการลดค่าครองชีพของรัฐบาล คาดทั้งปี 0.7–1.7% เตรียมปรับเป้าใหม่เดือนหน้า
สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ รายงานอัตราเงินเฟ้อเดือนสิงหาคม 2564 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน ลดลง 0.02% จากที่ขยายตัวต่อเนื่องมา 4 เดือน
มีสาเหตุสำคัญจากมาตรการลดภาระค่าครองชีพของภาครัฐในการลดค่าเล่าเรียน-ค่าธรรมเนียมการศึกษา ค่ากระแสไฟฟ้าและค่าน้ำประปา ประกอบกับราคาสินค้าในกลุ่มอาหารสดหลายชนิดลดลงค่อนข้างมาก โดยเฉพาะข้าวสารเหนียว ข้าวสารเจ้า เนื้อสุกร ไก่สด ผักและผลไม้ ในขณะที่ราคาไข่ไก่ยังคงสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องจากความต้องการที่เพิ่มมากขึ้น
แม้ว่าราคาสินค้าในกลุ่มพลังงานจะขยายตัว แต่เป็นอัตราที่น้อยกว่าเดือนที่ผ่านมา โดยปัจจัยดังกล่าวเป็นแรงกดดันให้เงินเฟ้อในเดือนนี้ปรับลดลง
สำหรับราคาสินค้าและบริการอื่นๆ ยังคงเคลื่อนไหวในทิศทางปกติ สอดคล้องกับความต้องการและสถานการณ์เศรษฐกิจในช่วงโควิด-19
เมื่อหักอาหารสดและพลังงานออกแล้ว เงินเฟ้อพื้นฐานขยายตัวที่ 0.07%
สำหรับเฉลี่ย 8 เดือน (ม.ค.-ส.ค.) ปี 2564 เงินเฟ้อทั่วไปสูงขึ้ 0.73% และเงินเฟ้อพื้นฐานสูงขึ้น 0.23%
เงินเฟ้อในเดือนก.ย. 2564 มีแนวโน้มกลับมาขยายตัวในระดับที่ไม่สูงมากนัก โดยมีปัจจัยสำคัญจากการสิ้นสุดมาตรการ ลดค่ากระแสไฟฟ้าและค่าน้ำประปา ซึ่งสิ้นสุดในเดือนสิงหาคม
อีกทั้งราคาพลังงานมีแนวโน้มทรงตัวหรือลดลงเล็กน้อย จากการเพิ่มกำลังการผลิตของผู้ผลิตโลก ประกอบกับสถานการณ์โควิด-19 ที่มีแนวโน้มเริ่มคลี่คลาย
อย่างไรก็ตาม ราคาอาหารสดและการต่ออายุมาตรการ ลดค่าครองชีพของรัฐเป็นปัจจัยผันแปรสำคัญที่ส่งผลต่อเงินเฟ้อในเดือนก.ย.ได้
ดัชนีราคาผู้บริโภคจำแนกรายภาค พบว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคภาคใต้และภาคกลาง ขยายตัวที่ 0.67% และ 0.21% ตามลำดับ ในขณะที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคเหนือ และกรุงเทพฯและปริมณฑล หดตัวที่ -0.13% -0.16% และ -0.40% ตามลำดับ
เมื่อพิจารณาเป็นรายหมวด พบว่า หมวดอาหารและเครื่องดื่มมีแอลกอฮอล์ ราคาสินค้าโดยเฉลี่ยของทุกภาคปรับตัวลดลง โดยภาคตะวันออกเฉียงเหนือยังคงเป็นภาคที่มีอัตราการลดลงมากที่สุด สาเหตุสำคัญจากสินค้าในกลุ่มผักสด และข้าวสาร ที่ลดลงในอัตราที่มากกว่าภูมิภาคอื่น ๆ
สำหรับหมวดอื่น ๆ ที่ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่ม สูงขึ้นในทุกภูมิภาค ยกเว้นกรุงเทพฯ และปริมณฑล เมื่อพิจารณาเป็นรายสินค้า พบว่า สินค้าสำคัญที่ราคาปรับตัวสูงขึ้นในทุกภาค ได้แก่ น้ำมันเชื้อเพลิง น้ำมันพืช ไข่ไก่ สำหรับสินค้าสำคัญที่ราคาลดลงในทุกภาค ได้แก่ ค่ากระแสไฟฟ้า ค่าน าประปา ข้าวสารเจ้า เป็นต้น
ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์คาดการณ์ว่า เงินเฟ้อ เฉลี่ยในปี 2564 จะอยู่ระหว่าง 0.7–1.7% (ค่ากลางอยู่ที่ร้อยละ 1.2) ซึ่งเป็นอัตราที่น่าจะช่วยสนับสนุนให้เศรษฐกิจไทยขยายตัวได้อย่างเหมาะสมและต่อเนื่อง ทั้งนี้จะมีการทบทวนอีกครั งในเดือนก.ย. 2564
เรื่องที่เกี่ยวข้อง:
บัฟเฟตต์ ใช้กลยุทธ์ลงทุนอย่างไร ต่อสู้กับเงินเฟ้อที่กำลังพุ่งทะยาน
กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กับทางเลือกในการออมภาคบังคับ
โควิดกระทบเศรษฐกิจ ‘หนักกว่าที่คิด’ กนง.หั่นเป้าจีดีพีปีนี้เหลือ 0.7%