แพทย์หญิงมาเรียแวนเคิร์กโฮฟเจ้าหน้าที่อาวุโสจากองค์การอนามัยโลก (WHO) กล่าวว่าข้อมูลที่ผิด (misinformation) เกี่ยวกับโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ได้กลายเป็นอีกปัจจัยเสี่ยงที่ “ทำให้โรคดังกล่าวระบาดหนักขึ้น”
ในการตอบคำถามเกี่ยวกับโรคโควิด-19 แวน เคิร์กโฮฟ ซึ่งดำรงตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายเทคนิคโครงการภาวะฉุกเฉินด้านสุขภาพขององค์การฯ กล่าวว่า ข้อมูลที่ได้รับมาอย่างผิดๆ นั้นทำให้ประชาชนไม่ยอมไปรับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ซึ่งส่งผลให้จำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้นทั่วโลก
“จำนวนข้อมูลผิดที่แพร่กระจายมีแนวโน้มแย่ลงในช่วงราว 4 สัปดาห์ที่ผ่านมา และฉันคิดว่ามันเป็นเรื่องที่น่าสับสนมากๆ สำหรับประชาชนทั่วไป”
สหรัฐฯนับเป็นอีกประเทศ แม้จะมีวัคซีนเพียงพอ แต่การฉีดวัคซีนเป็นไปอย่างล่าช้า เดอะวอชิงตันโพสต์ รายงานว่า สหรัฐฯพบประชาชนเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลด้วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) มากกว่า 100,000 รายซึ่งเป็นตัวเลขที่พบครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 30 ม.ค.
ยอดการเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลพุ่งสูงสุดทางตอนใต้ของประเทศ ซึ่งทุกรัฐล้วนมีสัดส่วนผู้เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลด้วยโรคโควิด-19 สูงกว่าสัดส่วนระดับประเทศ โดยฟลอริดาครองอันดับ 1 ด้วยจำนวนกว่า 17,000 ราย ตามด้วยเท็กซัส 14,000 ราย
ด้านการเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลด้วยโรคโควิด-19 ของเด็กทั่วประเทศสูงแตะ 2,100 ราย ซึ่งทำลายสถิติ 2,000 รายเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2020 ท่ามกลางกระแสถกเถียงเกี่ยวกับข้อกำหนดสวมหน้ากากอนามัยในโรงเรียน
รายงานระบุว่าปัจจุบันยอดผู้ป่วยโรคโควิด-19 รายใหม่ทั่วประเทศอยู่ในระดับใกล้เคียงกับช่วงเดือนมกราคม
แม้โรงพยาบาลหลายแห่งต้องแบกรับภาระหนักและประสบปัญหาขาดแคลนเตียงในแผนกผู้ป่วยอาการหนัก แต่ยอดผู้ป่วยเสียชีวิตโดยรวมกลับลดลงมาก โดยยอดการเสียชีวิตเฉลี่ยรายวันช่วงปลายเดือนมกราคมอยู่ที่ 3,100 ราย แต่ตัวเลขดังกล่าวอยู่ที่ราว 1,100 ราย เมื่อนับถึงวันพุธ (25 ส.ค.)
ความร่วมมือของประชาชนให้มารับวัคซีน ยังเกิดขึ้นในทวีปอาฟริกาเช่นเดียวกัน โดยสำนักงานภูมิภาคแอฟริกาขององค์การอนามัยโลก (WHO) คาดหวังว่าร้อยละ 10 ของประชาชนในทวีปแอฟริกาจะได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ภายในสิ้นเดือนกันยายนนี้พร้อมเรียกร้องยกระดับความร่วมมือในการฉีดวัคซีน
“เรายังคงหวังว่าประชาชนในทวีปแอฟริการ้อยละ 10 จะได้รับวัคซีนภายในสิ้นเดือนกันยายนนี้” มัตชิดิโซ โมติ ผู้อำนวยการประจำภูมิภาคแอฟริกาขององค์การฯ กล่าว พร้อมเสริมว่าวัคซีนจำนวน 117 ล้านโดสมีกำหนดส่งมาถึงแอฟริกาในเดือนกันยายน และจำเป็นต้องได้รับเพิ่มอีก 34 ล้านโดส เพื่อให้บรรลุเป้าหมายดังกล่าว
องค์การฯ เผยว่ายอดผู้ป่วยโรคโควิด-19 ในแอฟริกา ทะลุ 7.6 ล้านรายแล้ว โดยเป็นผู้เสียชีวิตมากกว่า 191,000 ราย นับตั้งแต่การระบาดใหญ่อุบัติขึ้น
โมติเตือนว่าแม้การระบาดระลอกที่ 3 จะเริ่มคงที่แล้ว แต่สถานการณ์ในแอฟริกายังคงไม่พ้นภัยอันตราย หลังมีรายงานตรวจพบผู้ป่วยเกือบ 248,000 รายในสัปดาห์ที่ผ่านมา
“จำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นใน 8 ประเทศของทวีป ซึ่งรวมถึงบอตสวานาและเอธิโอเปีย นี่เป็นโศกนาฏกรรมที่สามารถป้องกันได้ หากทุกประเทศในแอฟริกาเข้าถึงวัคซีนอย่างยุติธรรม” โมติกล่าว พร้อมเรียกร้องให้รัฐบาลแอฟริกาเร่งดำเนินโครงการฉีดวัคซีนและความร่วมมือด้านวัคซีน
เธอเสริมว่ารัฐบาลแอฟริกาควร “เตรียมความพร้อมในการฉีดวัคซีนเหล่านี้ทันทีที่มาถึง เพื่อให้แน่ใจว่าจะมีทรัพยากรมนุษย์ อุปกรณ์เครื่องมือ และทรัพยากรการเงินเพียงพอสำหรับฉีดวัคซีนให้ประชาชน” พร้อมเรียกร้องประเทศที่มีวัคซีนเพียงพอร่วมแบ่งปันวัคซีน
ทั้งนี้ เป้าหมายของแอฟริกาคือการได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 สูงสุด 600 ล้านโดส เพื่อฉีดให้ประชาชนอย่างน้อยร้อยละ 20 ภายในสิ้นปี 2021
อ่านเรื่องที่เกี่ยวข้อง:
ผลวิจัยชี้วัคซีนโควิดประสิทธิภาพลด หลังการระบาดของโควิดเดลตา
เปิดสูตรฉีดวัคซีนโควิดแต่ละกลุ่ม เช็ครายละเอียด ‘ใครอยู่กลุ่มไหน’
