วัคซีนไฟเซอร์

สหรัฐอนุมัติวัคซีนไฟเซอร์ ใช้ได้เต็มรูปแบบ รับการระบาดหนักครั้งใหม่

วัคซีนไฟเซอร์ ได้รับอนุมัติใช้ได้อย่างเต็มรูปแบบแล้วในสหรัฐ แต่เฉพาะ 2 โดส ส่วนโดสกระตุ้นเข็ม 3 ยังไม่ได้รับการอนุมัติ ให้ใช้กรณีฉุกเฉินเท่านั้น

สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (FDA) ของสหรัฐอนุมัติใช้วัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของบริษัทไฟเซอร์อย่างเต็มรูปแบบ (full approval) ซึ่งจะทำให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขมีความหวังว่าคนที่ยังไม่ยอมฉีดวัคซีนจะเปลี่ยนใจมาฉีดมากขึ้น และการอนุมัติครั้งนี้ จะทำให้วัคซีนไฟเซอร์ฉีดกับคนที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไป

FDA ประกาศให้ใช้วัคซีนของไฟเซอร์ครั้งแรกในเดือนธ.ค. ปีที่แล้ว สำหรับผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 16 ปีขึ้นไป เนื่องจากได้พิสูจน์ว่ามีประสิทธิภาพในการป้องกันอาการและการแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้ โดยการฉีด 2 โดส นับว่าเป็นวัคซีนที่พัฒนาได้เร็วที่สุดในโลกตะวันตกเท่าที่เคยมีมา และได้กลายเป็นวัคซีนที่ฉีดกันมากที่สุดในสหรัฐ

แต่วันซีนไฟเซอร์สำหรับเด็กอายุ 12 ปี ได้ส่งให้ทาง FDA อนุมัติเมื่อเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา แต่ยังไม่ได้รับการอนุมัติ ซึ่งอยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูลและการวิเคราะห์ 6 เดือน

การอนุมัติในครั้งนี้ ให้ใช้ได้อย่างเต็มรูปแบบ เกิดขึ้นเมื่อเกิดการระบาดครั้งใหญ่อีกครั้งในสหรัฐจากไวรัสกลายพันธุ์สายพันธุ์เดลตา และรัฐบาลสหรัฐกดดันให้ฉีดวัคซีนโดสที่ 3 เพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกัน

ไฟเซอร์ได้ส่งข้อมูลให้ทาง FDA ไปแล้ว โดยยืนยันว่าการฉีดวัคซีนโดสที่ 3 จะช่วยสร้างภูมิคุ้มกันไวรัสโควิดสายพันธุ์เดิม และเชื้อกลายพันธุ์ชนิดเดลตา และอัลฟาได้ ในระดับที่สูงกว่าการฉีด 2 โดส ซึ่งได้ได้รับการอนุมัติอย่างเต็มรูปแบบก็จะทำให้มีการฉีดในวงกว้างมากขึ้น เพราะที่ผ่านมา ชาวอเมริกันไม่ยอมฉีดวัคซีนเพราะวัคซีนอนุมัติใช้เพียงในสถานการณ์ฉุกเฉินเท่านั้น

หากได้รับการอนุมัติ ทางไฟเซอร์ก็สามารถทำตลาดได้มากขึ้น ให้กับบรรดาหมด ผู้จัดหาและสาธารณะทั่วไป

ไฟเซอร์ได้ยื่นเอกสารหนาถึง 340,000 หน้า มากเป็น 3 เท่าของมาตรฐานเท่าไป รวมถึงการทดลองทางคลินิคจากอาสาสมัคร 46,000 คน ซึ่งชี้ให้เห็นว่าวัคซีนมีประสิทธิภาพ 91.1% ในการป้องกันโควิด-19 หลังจากฉีดโดสที่สอง 6 เดือน ในขณะที่ตอนขอใช้ฉุกเฉินใช้อาสาสมัคร 37,000 คน และติดตามประสิทธิภาพหลังฉีดโดสที่สองเพียง 2 เดือน

ขั้นตอนการพัฒนาวัคซีนของไฟเซอร์ที่ค่อนข้างเร็ว ทำให้เกิดการต่อต้านจากสาธารณะ รวมถึงบางรัฐห้ามฉีดวัคซีนที่ประดิษฐ์จากเทคโนโลยี รวมทั้งบริษัทใหญ่ ๆ อย่างวอล์มาร์ท ไทสันฟู้ด และอูเบอร์เทคโนโลยี ระบุว่าจะไม่ยินยอมให้พนักงานฉีดวัคซีน หากไม่ได้รับการอนุมัติอย่างเต็มรูปแบบ

บริษัทยาในสหรัฐ 3 ราย มีเพียงไฟเซอร์เท่านั้นที่ยื่นขออนุมัติ ส่วนโมเดอร์นา ซึ่งใช้เทคโนโลยี mRNA เช่นเดียวกัน เตรียมยื่นขออนุมัติ และจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน ผู้ผลิตวัคซีนโควิดอีกราย ระบุว่าจะส่งข้อมูลเพื่อขออนุมัติภายในปีนี้

อ่านเรื่องที่เกี่ยวข้อง:

เปรียบเทียบวัคซีนโควิด 5 ยี่ห้อ ข้อดี-ข้อด้อยและเมื่อไหร่จะมา?

ผลข้างเคียงจากฉีดวัคซีนโควิด กับอาการที่มีอกาสเกิดขึ้น

วัคซีนเข็ม3 – ไขว้วัคซีน ‘ซิโนแวค-แอสตร้าฯ’ ได้ผล กระตุ้นด้วยไฟเซอร์รอผลศึกษา

10 ข่าวเด่นรอบสัปดาห์

คณะแพทย์ฯ จุฬาฯ ชูพหุวัฒนธรรม ลดความเหลื่อมล้ำบริการสุขภาพ
ลาแอฟริกา สร้างความเสี่ยงโรคอุบัติใหม่ไทย-เวียดนาม
เตือนไทย-เวียดนาม เสี่ยงโรคอุบัติใหม่จากสัตว์สู่คน ผ่านเส้นทางค้าหนังลาป้อนตลาดจีน
"Work Life Balance ไม่ได้มาฟรี ๆ" ธนา เธียรอัจฉริยะ มองชีวิต-การงาน
ประวัติศาสตร์ไทยในฉลองพระองค์
คีตศิลป์นครศรีฯ สืบสานวัฒนธรรมพื้นถิ่นแดนใต้
เวิร์กช้อปสื่อ เข้าใจ "ท้องวัยรุ่น"
ศิลปะแห่งความรัก
เรารบกันวันต่อวัน ชั่วโมงต่อชั่วโมง : ช่อง one31 กับ 8 ปี ทีวีดิจิทัล
สังคมเปลี่ยน สื่อปรับ ช่อง 3 จะไปทางไหน