ความเป็นเมือง

ความเป็นเมือง คนอยู่หนาแน่น ต้นตอโควิด-19 ลุกลามไม่หยุด

ความเป็นเมือง ที่มีแหล่งชุมชนจำนวนมาก กลายเป็นต้นตอการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยเฉพาะย่านที่เป็นพื้นที่จำเป็นและใช้ร่วมกันของประชาชน อย่างตลาดสดและตลาดนัดที่กระจายอยู่ทั่วไป

ศูนย์ข้อมูล COVID-19 รายงานว่าการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในรอบใหม่ จากสายพันธุ์เดลตา แม้ว่าจะมีมาตรการควบคุมและการป้องกันอย่างเข้มข้นในพื้นที่ที่พบการระบาดหนัก แต่ปรากฏว่าพื้นที่ที่มีปัญหามากที่สุดคือในชุมชน ที่พบว่ามีตลาดสดและตลาดนัดใกล้เคียง

ผู้ติดเชื้อโควิดวันนี้ (22 ส.ค.) พบว่าในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ยังพบคลัสเตอร์ในโรงงาน แคมป์ก่อสร้าง ตลาดและตลาดนัดที่ยังไม่ได้ปรับปรุง ในขณะที่ภาคเหนือและอีสานมาจากผู้เดินทางกลับภูมิลําเนาจากพื้นที่ระบาด ส่วนในภาคภาคกลาง ตะวันออก และใต้ พบการระระบาดในสถานประกอบการ แคมป์ก่อสร้าง ตลาด แพปลา เรือประมง

น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จากที่กระทรวงสาธารณสุขได้ติดตามข้อมูลผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทั่วประเทศ ได้พบว่าในส่วนของพื้นที่สีแดงเข้มโดยเฉพาะกรุงเทพฯและปริมณฑลได้พบผู้ติดเชื้อที่เชื่อมโยงกับตลาดสด และตลาดนัด โดยพบว่า ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. -10 ส.ค. พบการติดเชื้อใน 23 จังหวัด ในตลาด 132 แห่ง ผู้ติดเชื้อรวม 14,678 คน

กระทรวงสาธารณสุขจึงได้จัดทำมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในตลาด ซึ่งที่ประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. ที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เป็นประธาน

มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในตลาด จะประกอบด้วยมาตรการ 3 ส่วน คือ

มาตรการป้องกันคน ป้องกันสถานที่(ตลาด) และ จัดการระบบเฝ้าระวังควบคุมโรค ซึ่งในส่วนการป้องกันคนนั้นจะมีตรวจคัดกรองเชิงรุกด้วยชุดตรวจ ATK ในกลุ่มเป้าหมายได้แก่ผู้ค้า ลูกจ้าง แรงงานที่เดินทางเข้าออก ผู้อยู่อาศัยที่ประกอบธุรกิจอยู่โดยรอบ และมีการสุ่มตรวจผู้ซื้อที่เดินทางเข้าไปใช้บริการในตลาด 

ดำเนินการในจังหวัดพื้นที่สีแดงเข้มทั้ง 29 จังหวัด โดยแบ่งดำเนินการเป็น 3 ระยะ 

ระยะที่1 ดำเนินการใน 9 จังหวัดสีแดงเข้ม ได้แก่ กรุงเทพฯ นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ ราชบุรี ชลบุรี นครราชสีมา สงขลา และสระแก้ว เป้าหมายที่ตลาดค้าส่งและตลาดขนาดใหญ่(500แผงขึ้นไป) ตลาดที่มีความเสี่ยงสูง มีชุมชนรอบตลาด  รวม 27 แห่ง 

ระยะที่2 ดำเนินการตรวจในพื้นที่ตลาดทุกขนาด ในจังหวัดสีแดงเข้ม 16 จังหวัด ครอบคลุมตลาด 117 แห่ง 

ระยะที่ 3 ดำเนินการครอบคลุมตลาดทุกขนาด ในพื้นที่สีแดงเข้มทั้ง 29 จังหวัด  รวมตลาด 683 แห่ง

การประเมินเบื้องต้นคาดว่าจะดำเนินการตรวจครอบคลุมเป้าหมาย 202,010 คน ตรวจทุกสัปดาห์เป็นเวลา 4 สัปดาห์ ใช้ชุดตรวจ ATK 808,040 ชุด  มีการสำรองสำหรับกรณีตรวจเชิงรุกอีก 41,960 ชุด รวมใช้ชุดตรวจ ATK ตามมาตรการนี้รวม 850,000 ชุด ซึ่งจะขอรับการสนับสนุนชุดตรวจจากสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ(สปสช.) ต่อไป

นอกจากดำเนินการตรวจเชิงรุกแล้ว ตามมาตรการนี้จะมีการให้วัคซีนแก่ผู้เกี่ยวข้องในตลาดตามลำดับความเสี่ยง รวมถึงดำเนินมาตรการอื่นควบคู่ เช่น การมีแผนเผชิญเหตุ การจัดเตรียมโรงพยาบาลสนามหรือสถานที่แยกกัก เพื่อรองรับกรณีผู้ติดเชื้อหรือพบผู้มีผลตรวจ ATK เป็นบวก

อ่านเรื่องที่เกี่ยวข้อง:

พบจัดปาร์ตี้-ตั้งวงเหล้า-เล่นพนัน เตือนเสี่ยงติดโควิดแบบยกก๊วน

วัคซีนกระตุ้นเข็ม 3 รอปีหน้า สธ.เร่งเจรจาผู้ผลิตวัคซีนทุกยี่ห้อ

อนามัยโลกเผยผู้ติดเชื้อทั่วโลกพุ่ง สัปดาห์นี้ไม่มีแววลด สหรัฐมากสุด

10 ข่าวเด่นรอบสัปดาห์

คณะแพทย์ฯ จุฬาฯ ชูพหุวัฒนธรรม ลดความเหลื่อมล้ำบริการสุขภาพ
ลาแอฟริกา สร้างความเสี่ยงโรคอุบัติใหม่ไทย-เวียดนาม
เตือนไทย-เวียดนาม เสี่ยงโรคอุบัติใหม่จากสัตว์สู่คน ผ่านเส้นทางค้าหนังลาป้อนตลาดจีน
"Work Life Balance ไม่ได้มาฟรี ๆ" ธนา เธียรอัจฉริยะ มองชีวิต-การงาน
ประวัติศาสตร์ไทยในฉลองพระองค์
คีตศิลป์นครศรีฯ สืบสานวัฒนธรรมพื้นถิ่นแดนใต้
เวิร์กช้อปสื่อ เข้าใจ "ท้องวัยรุ่น"
ศิลปะแห่งความรัก
เรารบกันวันต่อวัน ชั่วโมงต่อชั่วโมง : ช่อง one31 กับ 8 ปี ทีวีดิจิทัล
สังคมเปลี่ยน สื่อปรับ ช่อง 3 จะไปทางไหน