แนวโน้มหุ้น แกว่งตัวในกรอบ 1,535-1,565 จุด จากสถานการณ์โควิด-19 ทั้งในและต่างประเทศยังกดดันภาวะเศรษฐกิจ ขณะที่ค่าเงินบาทมีแนวโน้มอ่อนค่าลง
ตลาดหุ้น ในสัปดาห์ถัดไป (23-27 ส.ค.) บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด มองว่าดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,535 และ 1,525 จุดขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,565 และ 1,580 จุดตามลำดับ
ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตามได้แก่สถานการณ์โควิดทั้งในและต่างประเทศรวมถึงประเด็นการเมืองภายในประเทศตลอดจนการประชุมประจำปีของเฟดที่ Jackson Hole ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯที่สำคัญได้แก่ดัชนี PMI ภาคการผลิต/ภาคบริการเดือนส.ค. (เบื้องต้น) ยอดขายบ้านใหม่และบ้านมือสองยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนรายได้/รายจ่ายส่วนบุคคลดัชนีราคา PCE/Core PCE Price Index เดือนก.ค. ตลอดจนจีดีพีไตรมาส 2/64 ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศอื่นๆได้แก่ดัชนี PMI เดือนส.ค. (เบื้องต้น) ของญี่ปุ่นและยูโรโซน
หุ้นไทยปรับตัวขึ้นจากสัปดาห์ก่อนโดยดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,553.18 จุด เพิ่มขึ้น 1.63% จากสัปดาห์ก่อน ขณะที่มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 80,548.25 ล้านบาท ลดลง 3.33% จากสัปดาห์ก่อน ส่วนดัชนี mai เพิ่มขึ้น 3.10% มาปิดที่ 503.46 จุด
หุ้นไทยปรับตัวขึ้นได้จากสัปดาห์ก่อนแม้จะมีแรงกดดันจากสถานการณ์โควิดในประเทศที่ยังไม่คลี่คลาย โดยการดีดตัวขึ้นของหุ้นไทยในช่วงต้นถึงกลางสัปดาห์ หลักๆ เป็นผลจากแรงซื้อของกลุ่มนักลงทุนสถาบัน โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มธนาคารที่ขานรับการผ่อนปรนให้กลับมาเปิดบริการในห้างได้ และกลุ่มการเงินซึ่งได้รับอานิสงส์จากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อจำนำทะเบียนรถของนอนแบงก์บางราย อย่างไรก็ดี หุ้นไทยย่อตัวลงช่วงสั้นๆ ระหว่างสัปดาห์ หลังบันทึกการประชุมเฟดทำให้ตลาดตีความว่ามีความเป็นไปได้ที่เฟดจะปรับลดวงเงิน QE ภายในปีนี้
ค่าเงินบาท ในสัปดาห์ถัดไป (23-27 ส.ค.) ธนาคารกสิกรไทย มองกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 33.00-33.50 บาทต่อดอลลาร์ฯ
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตามได้แก่การประชุมสัมมนาประจำปีของเฟดที่ Jackson Hole ตัวเลขการส่งออกเดือนก.ค. ของไทยและสถานการณ์โควิดขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯที่สำคัญประกอบด้วยยอดขายบ้านมือสองยอดขายบ้านใหม่ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนรายได้/รายจ่ายส่วนบุคคลและอัตราเงินเฟ้อที่วัดจาก PCE/Core PCE Price Index เดือนก.ค. ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคข้อมูลจีดีพีไตรมาส 2/64 (ครั้งที่ 2) และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์นอกจากนี้ตลาดยังรอติดตามดัชนี PMI เดือนส.ค. (เบื้องต้น) ของยูโรโซนอังกฤษและสหรัฐฯด้วยเช่นกัน
เงินบาทปรับตัวในกรอบแคบๆโดยเงินบาทอ่อนค่าลงในช่วงต้นสัปดาห์ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจไทย ซึ่งยังคงได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ที่ยืดเยื้อของการระบาดของโรคโควิด-19
อย่างไรก็ดี เงินบาทดีดตัวแข็งค่ากลับมาช่วงสั้น ๆ ในเวลาต่อมาตามการปรับโพสิชันในระหว่างที่รอบันทึกการประชุมเฟด เงินบาทกลับมามีทิศทางอ่อนค่าอีกครั้งในช่วงที่เหลือของสัปดาห์ตามจังหวะสถานะขายสุทธิหุ้นและพันธบัตรไทยของนักลงทุนต่างชาติ ประกอบกับเงินดอลลาร์ฯ มีแรงหนุนจากกระแสการคาดการณ์ว่าเฟดอาจจะมีการเริ่มปรับลดวงเงินซื้อสินทรัพย์ภายใต้มาตรการ QE ลงภายในสิ้นปีนี้เป็นอย่างเร็ว หากตลาดแรงงานสหรัฐฯ ฟื้นตัวได้ต่อเนื่อง
ในวันศุกร์ (20 ส.ค.) เงินบาทอยู่ที่ระดับ 33.36 บาทต่อดอลลาร์ฯ เทียบกับระดับ 33.34 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (13 ส.ค.)
อ่านเรื่องที่เกี่ยวข้อง:
โควิดทำตกงานหนักกว่าทุกวิกฤติ กนง.ชี้เศรษฐกิจเสี่ยง ‘ดิ่งเหว’
เศรษฐกิจไทยไตรมาส 2 ดีกว่าคาด แต่ไตรมาส 3 เสี่ยงขาลง
ลุ้นกันไปในไตรมาส 4 พ้นบ่วงโควิด เศรษฐกิจไทยผงกหัว พ้นจุดต่ำสุด