ซิดนีย์ รัฐนิวเซาธ์เวลส์ (NSW) ของออสเตรเลีย ประกาศยุติข้อกำหนดกักตัวในโรงแรมเพื่อป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) สำหรับผู้เดินทางเข้ารัฐ ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. เป็นต้นไป
โดมินิก เพอร์รอตเท็ต มุขมนตรีของรัฐนิวเซาธ์เวลส์ กล่าวว่าประชาชนจำเป็นต้องตรวจโรคโควิด-19 ก่อนขึ้นเครื่องบินมายังรัฐ และแสดงหลักฐานการฉีดวัคซีนครบโดสเท่านั้น พร้อมประกาศว่า “นครซิดนีย์แห่งรัฐนิวเซาธ์เวลส์เปิดต้อนรับผู้ฉีดวัคซีนครบโดสจากทั่วโลกแล้ว”
เพอร์รอตเท็ตยังประกาศจะผ่อนปรนมาตรการจำกัดจำนวนผู้รวมตัวกลางแจ้งและผู้ที่เดินทางเยือนสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ สำหรับผู้ฉีดวัคซีนครบโดส ในวันที่ 18 ต.ค. นี้ แต่จะยังมีการบังคับใช้ข้อจำกัดการเดินทางระหว่างซิดนีย์กับพื้นที่ระดับภูมิภาคอื่นๆ ต่อไปจนถึงวันที่ 1 พ.ย.
เพอร์รอตเท็ตเชื่อว่าการตัดสินใจนี้เป็นสิ่งที่ถูกต้อง โดยการตัดสินใจดังกล่าวเกิดขึ้นขณะที่ผู้มีอายุ 16 ปีขึ้นไปร้อยละ 91.4 ได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 โดสแรกแล้ว และร้อยละ 77.8 ได้รับวัคซีนครบโดสแล้ว
ทั้งนี้ เมื่อนับถึง 20.00 น. ของวันพฤหัสบดี (14 ต.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น รัฐนิวเซาธ์เวลส์ตรวจพบผู้ป่วยโรคโควิด-19 ติดเชื้อในท้องถิ่นเพิ่ม 399 ราย และเสียชีวิต 4 ราย ในช่วง 24 ชั่วโมง
ด้านรัฐวิกตอเรียตรวจพบผู้ป่วยติดเชื้อในท้องถิ่นเพิ่ม 2,179 ราย ซึ่งนับเป็นวันที่ 2 ติดต่อกันที่ตัวเลขผู้ป่วยรายวันสูงเกิน 2,000 ราย โดยผู้ป่วยส่วนใหญ่ถูกตรวจพบรอบ ๆ นครเมลเบิร์น เมืองเอกของรัฐ ทำให้ขณะนี้วิกตอเรียมีผู้ป่วยที่ยังคงอยู่ระหว่างรักษาตัวรวม 21,324 ราย
นอกจากนี้ วิกตอเรียยังตรวจพบผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 อีก 6 ราย ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 131 ราย นับตั้งแต่เกิดการระบาดในรัฐเมื่อ 10 สัปดาห์ก่อน แม้ตัวเลขผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตยังคงน่ากังวล แต่มุขมนตรีรัฐวิกตอเรียตั้งเป้าที่จะผ่อนปรนข้อจำกัดล็อกดาวน์บางส่วน เมื่ออัตราการฉีดวัคซีนครบโดสในรัฐสูงถึงร้อยละ 70
ปัจจุบัน ผู้อาศัยในวิกตอเรียที่มีคุณสมบัติได้รับวัคซีนโดสแรกแล้วร้อยละ 87.15 ขณะที่อัตราการฉีดวัคซีนครบโดสอยู่ที่ร้อยละ 62.65 ซึ่งหากอิงตามอัตราดังกล่าว วิกตอเรียอาจจะบรรลุเป้าหมายการฉีดวัคซีนครบโดสร้อยละ 70 ในวันที่ 22 ต.ค. นี้