ราคาน้ำมัน ยังมีแนวโน้มขยับขึ้นต่อเนื่อง จากตลาดน้ำมันตึงตัว เหตุความต้องการใช้เพิ่มขึ้นทั่วโลก รถใช้เบนซินอ่วม ขณะดีเซลไม่กระทบ รัฐอุ้มไว้ที่ 30 บาท/ลิตร
ทีมวิเคราะห์ตลาดต่างประเทศ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) คาดว่าแนวโน้มราคาน้ำมันโลกยังขยับขึ้น โดยราคาเฉลี่ยน้ำมันดิบในตลาดโลก เฉลี่ยรายสัปดาห์เพิ่มขึ้น 3 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ซึ่งในสัปดาห์ก่อน ราคา ICE Brent ทำสถิติสูงสุดในรอบ 3 ปี และ NYMEX WTI สูงสุดในรอบ 7 ปี
ราคาน้ำมันทั้ง 2 ชนิด เคลื่อนไหวเหนือระดับ 80 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ทะยานขึ้นจากช่วงต้นปีที่ประมาณ 50 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันได้รับแรงหนุนจากการตัดสินใจของ OPEC และพันธมิตร (OPEC+) ซึ่งยืนยันเพิ่มปริมาณการผลิตน้ำมันดิบ เดือนละ 4 แสนบาร์เรลต่อวัน ในช่วงเดือน ส.ค.-ธ.ค. 64 ตามข้อตกลงที่กำหนดไว้ก่อนหน้านี้ ท่ามกลางการเรียกร้องจากประเทศผู้นำเข้าให้เพิ่มปริมาณการผลิตมากกว่านี้เพื่อคลายภาวะตลาดน้ำมันตึงตัว
กระทรวงพลังงานสหรัฐฯ ประมาณการณ์ว่าในไตรมาสที่ 4 ปีนี้ ปริมาณการผลิตจะต่ำกว่าปริมาณการใช้อยู่ 1.7 แสนบาร์เรลต่อวัน หาก OPEC และพันธมิตรไม่มีการปรับเปลี่ยนข้อตกลงเดิม
ด้านเทคนิค สัปดาห์นี้ราคา ICE Brent มีแนวโน้มจะอยู่ในกรอบ 79-85 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล และมีโอกาสที่ ICE Brent จะขึ้นไปทดสอบแนวต้านสำคัญ คือ 85 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล
ปัจจัยที่กระทบต่อราคาน้ำมันดิบในเชิงบวก ราคาก๊าซธรรมชาติในตลาดโลกอยู่ในระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ทำให้ประเมินว่าโรงไฟฟ้าจะหันมาใช้น้ำมันแทนก๊าซธรรมชาติเพื่อผลิตไฟฟ้า อาทิ FGE คาดการณ์ว่าปริมาณการใช้น้ำมันจากโรงไฟฟ้าจะเพิ่มขึ้น 5 แสนบาร์เรลต่อวัน ขณะที่ Bank of America คาดเพิ่มขึ้น 1-2 ล้านบาร์เรลต่อวัน
ปัจจัยที่กระทบต่อราคาน้ำมันดิบในเชิงลบ ราคาน้ำมันได้รับแรงกดดันจากปัจจัยการเคลื่อนย้ายเงินทุน (Funds Flow) ซึ่งดัชนีดอลลาร์สหรัฐฯ เคลื่อนไหวบริเวณระดับ 94 จุด สูงสุดในรอบปี
เช็คราคาขายปลีกในประเทศ ที่นี่
เรื่องที่เกี่ยวข้อง:
ลดใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล ‘ไม่ง่าย’ หรือเราจะเลี่ยงโลกร้อนได้ยาก?